ประเมินสถานการณ์ พรีเมียร์ลีก ล่าสุดคงเตะไม่จบ-ซีซั่นหน้าเตะ 22 ทีม

สรุปสถานการณ์ ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังจากกำลังเผชิญกับภัย COVID-19 ระบาดอย่างเต็มตัว และได้มีการประกาศงดแข่งขันไปจนถึงวันที่ 3 เมษายน ล่าสุด สกายสปอร์ตส สื่อดังเมืองผู้ดีรายงานเมื่อวันเสาร์ที่ 14 มีนาคม 2563 ว่า ในวันพฤหัสบดีนี้ จะมีการเรียกตัวแทนจากทั้ง 20 สโมสรมาร่วมหารือเพื่อหาทางออกกันอีกครั้ง และมีความเป็นไปได้ถึง 75 เปอร์เซ็นต์แล้ว ที่การแข่งขันฤดูกาลนี้จะไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้

สกายสปอร์ตส อ้างแหล่งข่าวซึ่งเป็นคนจากสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งเปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่การระบาดของไวรัส COVID-19 จะดำเนินต่อไปอีกอย่างน้อย 10-14 สัปดาห์จนกว่าจะถึงจุดที่สถานการณ์รุนแรงที่สุด ซึ่งนั่นหมายความว่า พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้จะไม่สามารถแข่งขันกันต่อจนครบ 38 แมตช์แน่นอน

“ผมไม่เห็นว่าจะมีทางเป็นไปได้เลยที่เราจะกลับมาเตะกันในอีก 3 สัปดาห์ข้างหน้า สถานการณ์มันจะกินเวลาไปอีกหลายเดือนและคุณยังนึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าฤดูกาลหน้ามันจะเริ่มเตะกันได้เมื่อไหร่”

“ผมคงบอกได้ว่ามีโอกาสถึง 75 เปอร์เซ็นต์ที่ฤดูกาลนี้จะเตะกันไม่จบ มันคงมีคำถามอีกหลายข้อที่ต้องการคำตอบ ทีมไหนจะตกชั้นหรือทีมไหนจะเลื่อนชั้น หลาย ๆ ทีมในทั้ง 4 ดิวิชั่นจะต้องประสบปัญหาการเงินแน่ ๆ” แหล่งข่าว กล่าว

ขณะที่ สกายสปอร์ตส ประเมินความเป็นไปได้ในกรณีที่ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ แข่งขันกันไม่ครบ 38 แมตช์จริง ๆ สิ่งที่จะเกิดขึ้นอาจจะแบ่งออกเป็น 3 กรณี

1 มอบแชมป์ให้ ลิเวอร์พูล ตามที่มีรายงานข่าวไปก่อนหน้านี้ โดยไม่มีทีมตกชั้น ฤดูกาลนี้ พรีเมียร์ลีก จะแข่งขันกัน 22 ทีม โดย เวสต์บรอมฯ กับ ลีดส์ เลื่อนชั้นขึ้นมาจาก แชมเปี้ยนชิพ

2 ฤดูกาลนี้ถูกตัดสินให้เป็นโมฆะ แล้วฤดูกาลหน้าทั้ง 20 ทีมเริ่มแข่งขันกันใหม่ ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้น้อย เพราะนั่นหมายความว่า ลิเวอร์พูล ที่ทำผลงานยอดเยี่ยมมาทั้งซีซั่นทิ้งห่างรองจ่าฝูงถึง 25 แต้มก็จะพลาดคว้าแชมป์เป็นสมัยแรกในรอบ 30 ปี

3 ตัดจบการแข่งขันโดยยึดเอาตารางคะแนนล่าสุด แต่นี่ก็อาจจะเป็นไปได้น้อยเพราะถือว่าไม่ยุติธรรมกับ 3 ทีมที่ต้องตกชั้น นั่นก็คือ บอร์นมัธ, แอสตัน วิลล่า และ นอริช