กว่างโซ้ยซิวแชมป์ ตำนานใหม่ไทยลีก

ออกอาการสะใจอย่างสุดเหวี่ยง สำหรับสาวก “กว่างโซ้ง” สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด หลังคว้าแชมป์ “โตโยต้าไทยลีก 2019” มาครองได้เป็นสมัยแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร
ย้อนไปตอนเปิดฤดูกาล สิงห์ เชียงราย ประกาศตัว เป็นหนึ่งในทีมลุ้นแชมป์ เช่นเดียวกับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, การท่าเรือ เอฟซี, เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด
ช่วง 5 นัดแรก สถานการณ์ของ “กว่างโซ้ง” ออกจะกระท่อนกระแท่นไปบ้าง หลังชนะเพียงนัดเดียว แต่ก็ฝ่าฟันมาจบเลกแรกไปด้วยอันดับที่ 5


พอเข้าเลกสอง พวกเขากลายเป็นทีมลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัว หลังคว้าชัยได้เป็นส่วนใหญ่ โดยเกมสำคัญ คือการเปิดบ้านถล่มบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 4-0 ซึ่งทำให้เป็น ข้อได้เปรียบ เพราะเกมเยือนบุกไปยันเสมอ 0-0

ที่สำคัญไทยลีกปีนี้ มีการต่อสู้กันอย่างสนุก ตื่นเต้น ชนิดที่ต้องลุ้นกันถึงนัดสุดท้าย ระหว่างเชียงราย และบุรีรัมย์ หากมองตามเนื้อผ้า ขุนพลเซราะกราว มีโอกาสมากกว่า เพราะบุกไปเยือนเชียงใหม่ เอฟซี ทีมที่ตกชั้นไปแล้ว

แต่ฟุตบอลลูกกลมๆอะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ ใครจะไปคิดว่าบุรีรัมย์ที่จ่อคว้าแชมป์รอมร่อ กลับถูก ตีเสมอช่วงท้ายเกม ส่วนเชียงรายก็บุกชนะสุพรรณบุรี
มื่อ 2 ทีมมีแต้มเท่ากันตอนจบฤดูกาล ทำให้กฎ “เฮดทูเฮด” ก็ถูกนำมาใช้ตัดสินแชมป์เป็นครั้งแรก ก่อนจะเป็น “กว่างโซ้ง” ที่ปาดหน้าไปในที่สุด

เรียกได้ว่า นอกจากความเก่งที่มีแล้ว ยังได้ความเฮงเข้ามาเสริมด้วย

เชียงราย ถือเป็นทีมจังหวัดจากลีกภูมิภาค ที่พัฒนาเติบโตในทุกด้าน รวมถึงสร้างรังเหย้าของตัวเองขึ้นมา และประสบความสำเร็จกับแชมป์ลีก คัพ 1 สมัย แชมป์เอฟเอ คัพ 2 สมัย จนมาเถลิงแชมป์ไทยลีก ปีล่าสุด นับเป็นแรงจูงใจที่ดีให้กับทีมสโมสรจากจังหวัดต่างๆ

ขณะเดียวกัน “กว่างโซ้ง” ยังเป็นทีมหน้าใหม่ในรอบ 11 ปีที่ได้แชมป์ลีกสูงสุด หลังจาก ก่อนหน้านี้ “ปราสาทสายฟ้า” และ “กิเลนผยอง” แค่ 2 ทีมเท่านั้นที่มีชื่อจารึกในทำเนียบแชมป์


จุดที่น่าประทับใจ คือการใช้นักเตะไทยลงสนามเป็นกำลังหลักทั้ง อภิรักษ์ วรวงศ์, ศราวุธ อินทร์แป้น, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, ชินภัทร ลีเอาะ, ศิวกรณ์ เตียตระกูล รวมถึงการดึงเอกนิษฐ์ ปัญญา กลับมาช่วยทีมในเลกสอง

แข้งหนุ่มเหล่านี้ ก็พัฒนาตัวเองจนโชว์ฟอร์มดีในลีก ผลงานที่ออกมาสะท้อนให้เห็นถึงการถูกเรียกเข้าไปติดทีมชาติไทย

ขณะที่แข้งต่างชาติ อย่าง บิลล์ โรซิมาร์,วิลเลียม เอ็นริเก, บรินเนอร์ เอ็นริเก, อี ยอง แร หากไม่เจ็บไม่แบน พวกเขาจะเป็นตัวจริงได้ทุกครั้ง เพราะสร้างความแตกต่างให้กับทีมได้

สองสิ่งเหล่านี้ผสมผสานกัน ทำให้ฤดูกาลนี้ สิงห์ เชียงราย มีความแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม คงต้องรอดูว่าในฤดูกาลหน้า พวกเขาจะทำได้ดีขนาดไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องลงสนามในฐานะแชมป์เก่า เพื่อป้องกันแชมป์

กราวกีฬา “ไทยรัฐ” ได้สอบถามมิตติ ติยะไพรัช ประธานที่ปรึกษาของ “กว่างโซ้ง” สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ถึงทิศทางของปี 2020 ซึ่ง “บิ๊กฮั่น” เปิดเผยว่า เราจะยังคงรักษาขุมกำลังหลักของทีมให้อยู่ต่อไป นักเตะในทีมตอนนี้มี 21 คน อาจจะต้องเพิ่มขนาดทีมเป็น 25 คน เพราะเราต้องเล่นในศึกเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก หรือเอซีแอล ด้วย

ในรายของเอกนิษฐ์ มีทีมจากเจลีก ญี่ปุ่น ติดต่อเข้ามาจริง แต่เรายังมีเกมอีกมากให้ได้พิสูจน์ โดยเฉพาะในศึกเอซีแอล เราอยากให้เขาโชว์ฟอร์มได้สม่ำเสมอ ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้มากกว่านี้

ส่วนไทยลีกปีหน้า ก็พร้อมที่จะป้องกันแชมป์อย่างเต็มที่ เพราะทุกคนล้วนมีประสบการณ์มาแล้ว

นี่คือคำยืนยันของผู้ก่อตั้งสโมสรที่มีความมุ่งมั่นและมีขุมกำลังที่แข็งแกร่ง

จึงเชื่อได้ว่า พญากว่างตัวนี้ ยังคงน่าเกรงขาม